‘สหรัฐ’ หนุนพัฒนาพลังงานยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
สำนักงานส่งเสริมการค้าและพัฒนาแห่งสหรัฐ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ องค์กร USTDA ได้กลับเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายหลัก ในการสนับสนุน พร้อมพัฒนาโครงการพื้นฐาน 3 ประการได้แก่…พลังงานโครงสร้างพื้นฐาน, เศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าทางดิจิทัล อีกทั้งยังมีจุดมุ่งหมาย เพื่อยกระดับในฐานะหุ้นส่วนทางด้านเชิงพาณิชย์ ระหว่างสหรัฐ กับประเทศไทย ซึ่งในช่วงเวลานี้ มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนใหม่ ๆ ไม่ว่าจะทางจากทางภาครัฐ หรือทางภาคเอกชนเองก็ตาม ซึ่งเมื่อทุก ๆ องค์กรได้มารวมกัน พร้อมทั้งเกิดความร่วมมือในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งที่มีคุณภาพขึ้นมา ก็จะทำให้ประเทศไทยนั้นเกิดความเจริญยั่งยืนมากขึ้นต่อไปในอนาคต และสามารถผลิตสินค้าบริโภค-อุปโภค ที่มีคุณภาพออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย
กลับมาคราวนี้วางแผน ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
การกลับมาในคราวนี้ USTDA ได้ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า แก่บริษัทบลู โซลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ในประเทศไทย เพื่อยกระดับการสนับสนุน การพัฒนาโรงงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ รวมทั้งการผลิตแผงโซล่าเซลล์ อีกทั้งยังมีการจัดเก็บพลังงานแบบผสมผสาน ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ร่วมมือกับภาคเอกชนของประเทศไทย
โดยมีจุดมุ่งหมายให้พื้นที่ในส่วนนี้กลายเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ของโลกอีกทั้งยังมีการสร้างโรงผลิตไฟฟ้า จากพลังงานทางเลือกระดับภูมิภาค ซึ่งถ้าการดำเนินโครงการครั้งนี้ เป็นไปได้ด้วยดี ก็จะกลายมาเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐาน ในการผลักดันให้เกิดการเจริญเติบโตก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในประเทศไทยอย่างมีคุณภาพอีกครั้ง และการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของโครงการนี้ ก็ยังให้การสนับสนุนเป้าหมาย ในการขยายพลังงานทดแทนแบบผสมผสาน โดยบริษัทของสหรัฐได้เสนอให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์ และการกักเก็บพลังงานของ USTDA นั้น ก็ได้ให้เงินสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทบลู โซลาร์ เพื่อนำไปใช้ต่อยอด สร้างโครงการตามที่ได้วางแผนไว้ต่อไป อีกทั้งยังมีการออกแบบระบบ และวิเคราะห์สิ่งที่จำเป็น ต่อการจัดหาเงินทุน เพื่อดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ยกระดับบริษัทขนาดเล็กให้มีคุณภาพ
สำหรับโครงการนี้ น่าจะเป็นอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งช่วยพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กของประเทศไทย ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีขนาดเล็กก็ตาม แต่เมื่อนำเรื่องขององค์ความรู้ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยแล้ว ก็จะทำให้มีการผลิตไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ไม่แพ้องค์กรขนาดใหญ่เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า จะสามารถยกระดับพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กลายเป็นแหล่งพลังงานกระแสหลักในอนาคต ที่จะมาถึงอีกไม่ไกล โดยข้อมูลที่ได้สำรวจมาพบว่า ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวนมากกว่า 60 ล้านคน ยังตกอยู่ในสภาพที่เข้าไม่ถึงไฟฟ้า ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากในช่วงกลางคืน เพราะฉะนั้นการขยายธุรกิจโครงการนี้ จึงจะเป็นสิ่งที่ช่วยพลิกโฉมให้ชีวิตของประชาชนนั้นมีคุณภาพดีขึ้น เข้าถึงพื้นที่การใช้ไฟฟ้าได้ทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลความเจริญมากแค่ไหนอีกทั้งยังต้องมีราคาถูก เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึง และซื้อไปใช้งานกันได้ สำหรับโครงการที่มีความร่วมมือกันระหว่างบริษัท USTDA ได้มีพิธีลงนาม ทำให้บริษัท บลู โซลาร์ มีความเข้าใจ และได้เรียนรู้อย่างเจาะลึกในขั้นตอนการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่ต้องลงทุนในการสร้างแบตเตอรี่ เพื่อกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมอีกด้วย เพราะว่าใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลมาก บริษัทขนาดเล็กจะไม่มีโอกาสแจ้งเกิดเลย แต่ยังมีความหวัง ทำให้ได้ใช้ต้นทุนที่ได้มาจากองค์ความรู้ที่ได้รับมานี้ สามารถต่อยอดในอนาคตในเงินจำนวนเงินที่ต่ำลง แต่มีผลงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น